โครงการพัฒนาแอปพลิเคชั่น SMAE GO

เรื่องดีๆ ที่อยากแบ่งปัน กับโครงการพัฒนาแอปพลิเคชั่น SMAE Go และการผลิตสื่อการเรียนรู้เพื่อใช้พัฒนาพนักงานภายใต้ “โครงการพัฒนาที่ปรึกษาทางธุรกิจลูกค้า” ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)

จากโจทย์ความต้องการในการสื่อสารกับกลุ่ม “ผู้ประกอบการเกษตร” หรือ SMEs เกษตรของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นที่มาให้บริษัท มาสเตอ เมกเคอ จำกัด นำโซลูชั่นที่ช่วยให้เกิดการสื่อสารสองทางอย่างมีประสิทธิภาพในรูปแบบ Application มาตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวภายใต้ชื่อ App SMAE Go ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอบการเกษตรทั่วประเทศ สามารถเข้าถึงแหล่งความรู้ที่ทันสมัย ได้รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญโดยตรง พร้อมรับทราบข่าวสาร ข้อมูลด้านการเงินจาก ธ.ก.ส. ได้อย่างรวดเร็ว  เรียกว่าเหมือนผู้ประกอบการเกษตรมีเพื่อนคู่คิดบนมือถือ ซึ่งโครงการนี้ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่บริษัทฯ มีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่เพียงได้เป็นส่วนหนึ่งของการช่วยยกระดับการทำธุรกิจเกษตรให้แก่เกษตรกรไทยทั่วประเทศ เรายังได้มีส่วนสนับสนุนการทำงานของ ธ.ก.ส. ผ่านความเชี่ยวชาญในการพัฒนาเทคโนโลยีของเรา ซึ่งทำให้เกิดการพัฒนางานในส่วนอื่นๆ ร่วมกันตามมาอีกหลายโครงการ รวมถึง การผลิตสื่อการเรียนรู้เพื่อใช้พัฒนาพนักงานภายใต้ “โครงการพัฒนาที่ปรึกษาทางธุรกิจลูกค้า” อีกด้วย โดยบริษัทฯ ได้ทำงานร่วมกับคณะอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญสร้างสรรค์บทเรียนที่มีความทันสมัย มีเนื้อหาเข้มข้นแต่ไม่น่าเบื่อ เพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ผ่านแพล็ตฟอร์มออนไลน์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งจากการสำรวจความคิดเห็น พบว่าผู้เรียนส่วนใหญ่มีความพึงพอใจต่อสื่อชุดนี้เป็นอย่างดียิ่ง

สิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าเทคโนโลยีที่ชาญฉลาดก็คือ การผลิตสื่อหรือคอนเท้นต์ที่เหมาะสมเพื่อใช้ในการสื่อสารให้ทุกๆ คนเข้าใจได้ง่ายและได้ประโยชน์ โดยบริษัทฯ มีทีมงานผลิตคอนเท้นต์มืออาชีพที่สามารถสกัดองค์ความรู้ ข้อมูล เอกสาร ฯลฯ ที่เคยเข้าใจยากให้อยู่ในรูปแบบที่เข้าใจได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น Infographic วิดีโอคลิปฯลฯ ต่างๆ ซึ่งเรามีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า ไม่เพียงมอบการดูแลด้านเทคโนโลยีที่มีคุณภาพและตอบโจทย์ เรายังพร้อมเติมเต็มความต้องการด้านคอนเท้นต์และการสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้แก่ลูกค้าในทุกๆ โครงการ เพราะท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่เรามุ่งหวังให้ลูกค้าได้รับอย่างแท้จริงก็คือ “ความสำเร็จอย่างยั่งยืน” นั่นเอง